วันที่ 8 พฤษภาคม 2568 จัดประชุมโครงการสนับสนุนการติดตามและประเมินผลการดำเนินงานด้านงานฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรและด้านอื่นในภารกิจของสำนักงาน ตามบันทึกข้อตกลงกรมบัญชีกลาง กิจกรรมที่ 2 อำเภอพร้าว

วันที่ 8 พฤษภาคม 2568 นางสาววราภรณ์ พิมสาร หัวหน้าสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สาขาจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วย นางรสรินทร์ สิทธิธรรมใจ นายจันทร์ นาละต๊ะ และนายอภิชาติ ชมภู อนุกรรมการฯ ร่วมจัดประชุมโครงการสนับสนุนการติดตามและประเมินผลการดำเนินงานด้านงานฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรและด้านอื่นในภารกิจของสำนักงาน ตามบันทึกข้อตกลงกรมบัญชีกลาง กิจกรรมที่ 2 โดยองค์กรมีความประสงค์ ขอรับการสนับสนุนด้านโครงการฟื้นฟูพัฒนาอาชีพ ณ ที่ตั้งองค์กรเกษตกร กลุ่มอาชีพสหกรณ์แปลงสอง อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่

วันที่ 8 พฤษภาคม 2568 ร่วมเซ็นต์สัญญาเป็นพยานในสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ของเกษตรกรสมาชิก กฟก/สะสางการขึ้นทะเบียนหนี้เกษตรกร อำเภอแม่แตง

วันที่ 8 พฤษภาคม 2568 ร่วมเซ็นต์สัญญาเป็นพยานในสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ของเกษตรกรสมาชิก กฟก/สะสางการขึ้นทะเบียนหนี้เกษตรกร อำเภอแม่แตง นางสาววราภรณ์ พิมสาร หัวหน้าสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สาขาจังหวัดเชียงใหม่ (กฟก.) ได้มอบหมายให้ นายนครินทร์ คำแปง พนักงานทั่วไป ลงพื้นที่เพื่อปฏิบัติภารกิจสำนักงานสาขาดังนี้

1.ร่วมเซ็นต์สัญญาเป็นพยานในสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ของเกษตรกรสมาชิก กฟก. ตามมติคณะรัฐมนตรี 22 มีนาคม 2565 และวันที่ 14 มีนาคม 2566 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ ณ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์สาขาแม่แตง

2.สะสางการขึ้นทะเบียนหนี้เกษตรกร จำนวน 4 ราย

วันที่ 9 พฤษภาคม 2568 วันพืชมงคล

วันที่ 9 พฤษภาคม 2568 วันพืชมงคล

วันพืชมงคล หมายถึงอะไร ?

          วันพืชมงคล คือ วันที่กำหนดพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ เป็นพระราชพิธีเก่ามาแต่โบราณที่เสริมสร้างขวัญและกำลังใจแก่เกษตรกรของชาติ เพื่อเป็นการระลึกถึงความสำคัญของเกษตรกรที่มีต่อเศรษฐกิจไทย โดยการจัดพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ มีสืบเนื่องมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ซึ่งพระราชพิธีนี้จะกระทำที่ท้องสนามหลวง ประกอบด้วย 2 พระราชพิธี คือ พระราชพิธีพืชมงคล และพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ

          พิธีพืชมงคล

          เป็นพิธีทำขวัญเมล็ดพืชพรรณต่าง ๆ เช่น ข้าวเปลือกเจ้า ข้าวเหนียว ข้าวฟ่าง ข้าวโพด ถั่ว งา เผือก มัน เป็นต้น ฯลฯ มีจุดมุ่งหมายที่จะให้เมล็ดพันธุ์เหล่านั้นปราศจากโรคภัย และให้อุดมสมบูรณ์เจริญงอกงามดี

          พิธีแรกนาขวัญ

          เป็นพิธีเริ่มต้นการไถนาเพื่อหว่านเมล็ดข้าว มีจุดมุ่งหมายที่จะให้เป็นอาณัติสัญญาณว่าบัดนี้ฤดูกาลแห่งการทำนาและเพาะปลูกได้เริ่มขึ้นแล้ว

ประวัติวันพืชมงคล

พระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ หรือเรียกสั้น ๆ ว่า พิธีแรกนา เป็นพระราชพิธีที่มีมาแต่โบราณตั้งแต่ครั้งสุโขทัยเป็นราชธานี ซึ่งในสมัยนั้นพระมหากษัตริย์ไม่ได้ลงมือไถนาเอง เป็นแต่เพียงเสด็จฯ ไปเป็นองค์ประธานในพระราชพิธีเท่านั้น ครั้นถึงสมัยกรุงศรีอยุธยา พระมหากษัตริย์ไม่ได้เสด็จฯ ไปเป็นองค์ประธาน แต่จะมอบอาญาสิทธิ์ให้โดยทรงทำเหมือนอย่างออกอำนาจจากกษัตริย์ และจะทรงจำศีลเงียบ 3 วัน ซึ่งวิธีนี้ได้ใช้ตลอดมาถึงปลายสมัยกรุงศรีอยุธยา

          ต่อมา สมัยรัตนโกสินทร์ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 ได้โปรดเกล้าฯ ให้ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่เป็นผู้ประกอบพระราชพิธีแรกนาขวัญแทนพระองค์ และมิได้ถือว่าเป็นพิธีหน้าพระที่นั่ง เว้นแต่เมื่อมีพระราชประสงค์จะทอดพระเนตร สถานที่ประกอบพิธีในตอนแรก ๆ จึงไม่ตายตัว แล้วแต่จะทรงกำหนดให้ ครั้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 โปรดเกล้าฯ ให้จัดพิธีสงฆ์เพิ่มขึ้นในพระราชพิธีต่าง ๆ ทุกพิธี ดังนั้น พระราชพิธีพืชมงคล จึงได้เริ่มมีขึ้นแต่บัดนั้นมา โดยได้จัดรวมกับพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ และมีชื่อเรียกรวมกันว่า “พระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ”

          ส่วนพิธีกรรมนอกเหนือจากการทำให้เป็นตัวอย่างตามที่ทรงจำแนกไว้ 3 อย่าง โดย 2 อย่างแรกที่ว่า “อาศัยคำอธิษฐานเอาความสัตย์เป็นที่ตั้งบ้าง ทำการซึ่งไม่มีโทษนับว่าเป็นการสวัสดิมงคลตามซึ่งมาในพระพุทธศาสนาบ้าง ทรงหมายถึง พิธีพืชมงคล อันเป็นพิธีสงฆ์ที่กระทำ ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ส่วนอีกอย่างหนึ่งที่ว่า “บูชาเซ่นสรวงตามที่มาทางไสยศาสตร์บ้าง” ทรงหมายถึงพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญอันเป็นพิธีพราหมณ์

          ดังนั้น จึงพอจะสรุปความมุ่งหมายอันเป็นมูลเหตุให้เกิดพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญนี้ได้ว่า พิธีแรกนาขวัญมุ่งหมายที่จะให้เป็นตัวอย่างแก่ราษฎร เพื่อชักนำให้มีความมั่นใจในการทำนา อันเป็นอาชีพหลักที่สำคัญของคนไทยที่มีมาแต่ช้านานสืบมาจนปัจจุบันยังคงเป็นอยู่อย่างนั้น เพราะการเกษตรซึ่งมีการทำนาเป็นหลักนั้นเป็นสิ่งสำคัญแก่ชีวิตความเป็นอยู่และเศรษฐกิจของประเทศทุกสมัย

          ส่วนวันประกอบพิธีนั้นต้องเป็นวันที่ดีที่สุดของแต่ละปี ประกอบด้วย ขึ้น แรม ฤกษ์ยาม ให้ได้วันอันเป็นอุดมฤกษ์ตามตำราโหราศาสตร์ แต่ต้องอยู่ในระหว่างเดือน 6 เพราะเดือนนี้เริ่มจะเข้าฤดูฝน เป็นระยะเวลาที่เหมาะสมสำหรับเกษตรกร ชาวไร่ ชาวนา จะได้เตรียมทำนา เมื่อโหรหลวงคำนวณได้วันอุดมมงคลพระฤกษ์ที่จะประกอบพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญแล้ว สำนักพระราชวังจะได้ลงไว้ในปฏิทินหลวงที่พระราชทานในวันขึ้นปีใหม่ทุกปี และได้กำหนดไว้ว่าวันใดเป็นวันพืชมงคล วันใดเป็นวันจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ

พระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ แต่เดิมมาทำที่ทุ่งนาพญาไท เมื่อได้มีการฟื้นฟูพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญขึ้นใหม่ จึงจัดให้มีขึ้นที่ท้องสนามหลวง ทั้งนี้ วันแรกนาขวัญเป็นวันสำคัญของชาติ คณะรัฐมนตรีมีมติให้หยุดราชการ 1 วัน และมีประกาศให้ชักธงชาติตามระเบียบทางราชการ

ภาพจาก Satin / Shutterstock.com

การประกอบพระราชพิธีวันพืชมงคล

พระราชพิธีพืชมงคล เป็นพิธีทำขวัญพืชพรรณธัญญาหารที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงอธิษฐานเพื่อความอุดมสมบูรณ์ของพืชพรรณธัญญาหารแห่งราชอาณาจักรไทย ซึ่งข้าวที่นำเข้าพิธีพืชมงคลนั้นเป็นข้าวเปลือก มีทั้งข้าวเจ้าและข้าวเหนียว นอกจากนี้ยังมีเมล็ดพืชต่าง ๆ รวม 40 อย่าง แต่ละอย่างบรรจุถุงผ้าขาว และยังมีข้าวเปลือกที่หว่านในพิธีแรกนา บรรจุกระเช้าทองคู่หนึ่งและเงินคู่หนึ่ง เป็นข้าวพันธุ์ดีที่โปรดเกล้าฯ ให้ปลูกในสวนจิตรลดา และพระราชทานมาเข้าพิธีพืชมงคล

          โดยพันธุ์ข้าวพระราชทานนี้จะใช้หว่านในพระราชพิธีแรกนาส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งที่เหลือทางการจะบรรจุซองแล้วส่งไปแจกจ่ายแก่ชาวนาและประชาชนในจังหวัดต่าง ๆ ให้เป็นมิ่งขวัญและเป็นสิริมงคลแก่พืชผลที่จะเพาะปลูกในปีนี้

          ทั้งนี้ พระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ในปัจจุบันนี้ได้ดำเนินตามแบบอย่างโบราณราชประเพณี เว้นแต่บางอย่างได้มีการดัดแปลงให้เหมาะแก่กาลสมัย อาทิ พิธีของพราหมณ์ก็มีการตัดทอนให้เหลือน้อยลง พระยาแรกนาก็ให้ตกเป็นหน้าที่ของปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ส่วนเทพีนั้นคัดเลือกจากข้าราชการสตรีโสดในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ระดับ 3-4 คือขั้นโทขึ้นไป พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ได้เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรพระราชพิธีทุกปี มีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทูตานุทูต และประชาชน มาชมการแรกนาเป็นจำนวนมาก

          สำหรับการประกอบพิธีนั้นก็จะถูกกำหนดขึ้นโดยโหรหลวง ในระหว่างพิธีอันสวยงามนี้ก็จะมีการทำนายปริมาณน้ำฝนในช่วงฤดูฝนที่กำลังจะมาถึง และแล้วพระยาแรกนาก็จะทำการเลือกผ้า 3 ผืนที่มีความยาวต่างขนาดกันตามชอบใจ ผ้าทั้ง 3 ผืนนี้จะดูคล้ายกัน ถ้าพระยาแรกนาเลือกผืนที่ยาวที่สุด ทายว่า ปีนี้ปริมาณน้ำฝนจะมีน้อย ถ้าเลือกผืนที่สั้นที่สุด ทายว่า ปีนี้ปริมาณน้ำฝนจะมาก และถ้าเลือกผืนที่มีความยาวปานกลาง ทายว่า มีปริมาณน้ำฝนพอประมาณ

          หลังจากสวมเสื้อผ้าที่เรียกว่า “ผ้านุ่ง” เรียบร้อยแล้ว พระยาแรกนาก็จะไถลงไปบนพื้นที่ท้องสนามหลวงด้วยพระนังคัลสีแดงและสีทอง ซึ่งลากโดยพระโคผู้สีขาว ตามขบวนด้วยเทพีทั้งสี่ ผู้ซึ่งหาบกระเช้าทองและกระเช้าเงินที่บรรจุด้วยเมล็ดข้าวเปลือก นอกจากนี้ก็มีคณะพราหมณ์เดินคู่ไปกับขบวน พร้อมทั้งสวดและเป่าสังข์ไปพร้อมกัน

   เมื่อเสร็จจากการไถแล้ว พระโคก็จะได้รับการป้อนพระกระยาหารและเครื่องดื่ม 7 ชนิด คือ เมล็ดข้าว ถั่ว ข้าวโพด หญ้า เมล็ดงา น้ำ และเหล้า ไม่ว่าพระโคจะเลือกกินหรือดื่มสิ่งใด ทายว่าปีนี้จะอุดมสมบูรณ์ด้วยสิ่งที่พระโคเลือกนั้น

          เมื่อเสร็จพิธีแล้วประชาชนจะพากันแย่งเก็บเมล็ดข้าวที่หว่านโดยพระยาแรกนา เพราะว่าเมล็ดข้าวนี้ถือว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ อันจะนำมาซึ่งความอุดมสมบูรณ์และความเป็นสิริมงคลแก่ผู้ที่มีไว้ในครอบครอง ชาวนาก็จะใช้เมล็ดข้าวนี้ผสมกับเมล็ดข้าวของตน เพื่อให้พืชผลในปีที่จะมาถึงนี้อุดมสมบูรณ์

          สำหรับพระโคที่จะเข้าพระราชพิธีแรกนาขวัญจะถูกเลี้ยงดูอย่างดีในทุ่งหญ้าที่จังหวัดราชบุรี พระโคที่ใช้ในพระราชพิธีจะต้องมีลักษณะที่ดี ขาดเกินไม่ได้ คือ หูดี ตาดี แข็งแรง เขาทั้งสองตั้งตรงสวยงาม พระโคแต่ละคู่ต้องสีเหมือนกัน ซึ่งจะมีการคัดเลือกพระโคเพียง 2 สีเท่านั้น คือ สีขาวสำลีและสีน้ำตาลแดง และเจาะจงแต่เพศผู้เท่านั้น โดยต้องผ่านการ “ตอน” เสียก่อนด้วย  

          อนึ่ง นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2509 เป็นต้นมา คณะรัฐมนตรีได้ประชุมปรึกษาลงมติให้วันพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ เป็นวันเกษตรกรประจำปีอีกด้วย ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้มีอาชีพทางการเกษตรพึงระลึกถึงความสำคัญของการเกษตร และร่วมมือกันประกอบพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ เพื่อเป็นสิริมงคลแก่อาชีพของตน

กิจกรรมต่าง ๆ ที่ควรปฏิบัติในวันพืชมงคล

          1. ประดับธงชาติตามอาคารบ้านเรือนและสถานที่ราชการ 

          2. จัดนิทรรศการ แสดงประวัติความเป็นมา และความสำคัญของวันพืชมงคล รวมทั้งพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ

ภาพจาก topten22photo / Shutterstock.com

พระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ 2568

          สำหรับพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ 2568 จัดพิธีพราหมณ์ ณ มณฑลพิธีสนามหลวง โดยมี นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทำหน้าที่พระยาแรกนา ตามฤกษ์พิธีไถหว่าน ระหว่างเวลา 08.09-08.39 น.                     

เทพี คู่หาบทอง ได้แก่ 
           1. น.ส.ปนัดดา เปี่ยมมอญ นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการพิเศษ 
           2. น.ส.ภัทรปภา มินรินทร์ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการ กรมส่งเสริมการเกษตร

 เทพีคู่หาบเงิน ได้แก่  
           1. น.ส.ธิรดา วงษ์กุดเลาะ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการ กรมส่งเสริมการเกษตร 
           2. น.ส.วราภรณ์ วิลัยมาตย์ เจ้าพนักงานธุรการปฏิบัติงาน กรมวิชาการเกษตร

พระโคแรกนาขวัญ 1 คู่ ได้แก่ พระโคพอ พระโคเพียง และพระโคสำรอง ได้แก่ พระโคเพิ่ม พระโคพูล เป็นโคพันธุ์ขาวลำพูน มีสีผิวขาวอมชมพู ขนสีขาวสะอาด ทั้งลำตัวไม่มีจุดด่างดำหรือสีอื่นบนลำตัว เขามีสีขาว ลำตัวเป็นลำเทียน เขาทั้งสองข้างมีลักษณะโค้งสวยงาม ดวงตาแจ่มใสสีน้ำตาลอ่อน ขนตาสีชมพู บริเวณจมูกขาว กีบสีขาว ขนหางเป็นพวงสีขาวยาว ลำตัวช่วงขาหลังและกีบมีความสมบูรณ์แข็งแรง เวลายืนและเดินสง่า

           สำหรับพันธุ์ข้าวทรงปลูกพระราชทานที่จะแจกจ่ายในปีนี้ ประกอบด้วย พันธุ์ข้าวนาสวน 6 พันธุ์ และพันธุ์ข้าวเหนียว 2 พันธุ์ น้ำหนักรวม 2,743 กิโลกรัม

วันพืชมงคล 2568 พระโค ได้ทำการเสี่ยงทาย น้ำ หญ้า และ เหล้า

 ขณะที่ พระโค ได้ทำการเสี่ยงทาย น้ำ หญ้า และ เหล้า ทำนายได้ดังนี้
          – น้ำ และ หญ้า พยากรณ์ว่า พยากรณ์ว่า น้ำท่าจะบริบูรณ์พอสมควร ธัญญาหาร ผลาหาร ภักษาหาร มังสาหารจะอุดมสมบูรณ์
          – เหล้า พยากรณ์ว่า การคมนาคมสะดวกยิ่งขึ้น การค้าขายกับต่างประเทศดีขึ้น ทำให้เศรษฐกิจเจริญรุ่งเรือง

ขอบคุณข้อมูลจาก : กระทรวงเกษตรและสหกรณ์กรุงเทพธุรกิจ

วันที่ 7 พฤษภาคม 2568 จัดประชุมโครงการสนับสนุนการติดตามและประเมินผลการดำเนินงานด้านงานฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรและด้านอื่นในภารกิจของสำนักงาน ตามบันทึกข้อตกลงกรมบัญชีกลาง กิจกรรมที่ 2 อำเภอจอมทอง

วันที่ 7 พฤษภาคม 2568 นางสาววราภรณ์ พิมสาร หัวหน้าสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สาขาจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วย นางสุพัตรา ผ่อนจตุรัส ประธานอนุกรรมการฯ ร่วมจัดประชุมโครงการสนับสนุนการติดตามและประเมินผลการดำเนินงานด้านงานฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรและด้านอื่นในภารกิจของสำนักงาน ตามบันทึกข้อตกลงกรมบัญชีกลาง กิจกรรมที่ 2 โดยองค์กรมีความประสงค์ ขอรับการสนับสนุนด้านโครงการฟื้นฟูพัฒนาอาชีพ ณ สหกรณ์การเกษตรจอมทอง จำกัด อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่

วันที่ 7 พฤษภาคม 2568 ดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดิน และมอบโฉนดที่ดินให้เกษตรกร อำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่

วันที่ 7 พฤษภาคม 2568 นางสาววราภรณ์ พิมสาร หัวหน้าสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สาขาจังหวัดเชียงใหม่ ได้มอบหมาย นางสาวชลาลัย ฟ้าภูเจริญ นางสาวเกสรา ถวิลวิศาล ลูกจ้างกลุ่มงานทั่วไป และนายจีระณัฐ จอมเมือง ลูกจ้างกลุ่มงานบริการ ดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดิน และมอบโฉนดที่ดินให้เกษตรกร อำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 1 ราย โฉนดที่ดิน จำนวน 6 แปลง โดยเป็นการโอนที่ดินตามกฏหมาย กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ณ สำนักงานที่ดินจังหวัดเชียงใหม่ สาขาฮอด